Evil-พิษรักซาตาน NC [Kyuhyuk]
[มีสองเอ็นซีนะคะ ]
NC Part 1.
มือหนาจัดการคลี่ปลดซิบออกจากกันจนเผยปีศาจร้ายที่พร้อมใช้งานเต็มที่ ฮยอกแจสั่นไหวไปทั้งตัวค่อย ๆ ก้าวเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ
“นั่งลงมา” ฮยอกแจเดินขึ้นไปนั่งบนตักใหญ่พร้อมสอดใส่สิ่งที่กำลังผงาดตั้งตรงให้กลืนหายเข้าไปภายในเรือนร่างของตัวเอง กัดฟันแน่นกับความอึดอัดที่ได้รับ
“ชักช้า!!” ไม่ว่าเปล่ายังจับสะโพกกลมกดหนักจนฮยอกแจกรีดร้องเสียงหลง
“รุ่นพี่ผมเจ็บ~” ร้องขอด้วยน้ำเสียงชวนน่าสงสาร แต่น้ำเสียงแบบนั้นกลับไปกระตุ้นจิตใจของซาตานให้กระหยิ่มไปกับสิ่งที่เห็น แทนที่อีกคนจะปรานี กลับจับสะโพกกลมยกขึ้นสูงจนแท่งเนื้อเกือบหลุดออกพร้อมใส่กลับลงไปดังเดิมสุดแรง ฮยอกแจกัดริมฝีปากตัวเองแน่นอดทนกับทั้งความเจ็บจุกอึดอัดและเสียวซ่านที่ได้รับ
“อะไรยังไม่ชินอีกหรือไง”
“ม ไม่ชิน ไม่ต้องการ ไม่เอาแล้ว”
“หึ เสียใจแต่คนที่ผิดคือนายนะฮยอกแจ” จับสะโพกกลมยกขึ้นจนเกือบสุดและกดลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงตาพราวเสน่ห์จ้องมองใบหน้าเจ็บปวดผสมเสียวซ่านด้วยความพอใจ
“คุณมันซาตานชัด ๆ” ปรายสายตาฉ่ำเยิ้มพร้อมเอาเรื่องใส่อีกคน ชายหนุ่มกระตุกยิ้มไม่ใส่ใจกับน้ำคำต่อว่านั้น ก่อนเปลี่ยนจังหวะให้สะโพกกลมไหวโยกไปในอีกทิศทาง ฮยอกแจเผลอตัวเชิดหน้าแอ่นอก ปรอยสายตาหวานฉ่ำพร้อมส่งเสียงครางหวานออกมาให้ได้ยิน
“อืม~ อย่างนั้นแหละฮยอกแจ ใครจะรู้บ้างนะว่าคนเรียบร้อยแบบนายก็ร้อนแรงได้เหมือนกัน” กดสะโพกกลมหนักขึ้นจนปลายเล็บแหลมคมต้องจิกลงที่กลางหลังเพื่อระบายความเสียวซ่าน เสียงเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นเบา ๆ ข้างตัว มือหนาเอื้อมออกไปรับสิ่งนั้นมาแนบไว้ที่หูพร้อมกรอกเสียงลงไป
“ว่าไงซองมิน” ฮยอกแจเบิกม่านตาออกกว้าง ผลักตัวเองออกมาส่ายหน้าแรง ๆ คล้ายกับต้องการเร่งให้อีกคนจบเกมส์นี้หรือไม่ก็วางสายไป นัยน์ตาสีน้ำตาลคลอเคลือบไปด้วยความหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด ยกมุมปากของคนเจ้าเล่ห์ขึ้นสูง มือใหญ่ข้างหนึ่งจับสะโพกกลมไว้ กดเบา ๆ ให้กายเล็กโยกไหวในขณะที่มืออีกข้างก็ถือโทรศัพท์คุยกับปลายสายไป
“พี่คยูฮยอนทำอะไรอยู่” ปลายสายถามกลับ คยูฮยอนปรายตามองแววตาอ้อนวอนด้วยความพอใจ
“ทำการบ้าน” ว่าพร้อมกดสะโพกกลมแรง ๆ หนึ่งที ทำเอาฮยอกแจเผลอตัวครางออกมาอย่างยั้งไม่อยู่ ฮยอกแจรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ นัยน์ตาเล็กพากันสั่นไหวคลอเคล้าราวกับน้ำตากำลังจะพากันไหลริน เรียกรอยยิ้มพอใจจากคนตัวสูง
“ไม่ อย่านะรุ่นพี่” กระซิบห้ามด้วยลมหายใจ แต่แทนที่อีกคนจะหยุด กลับกรีดปลายนิ้วใส่แผ่นหลังเปลือยเปล่า ฮยอกแจเชิดหน้าเลื่อนมือไปกอดลำคอแกร่งเอาไว้อัตโนมัติ แผ่นหลังคือส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของตัวเอง และดูเหมือนอีกคนจะรู้เลยลูบไล้กระตุ้นต่อมความอดทนให้หดหาย ฮยอกแจครางหวานบิดกายแนบลำตัวเข้าหากายใหญ่ ซบใบหน้าเข้ากับแผงอกกว้าง ขยับสะโพกระบายความเสียวซ่านด้วยท่าทางยั่วยวน
“พี่คยูฮยอน นี่พี่อยู่กับใคร ได้ยินเสียงคนอื่นด้วย พี่พาผู้หญิงมานอนด้วยเหรอ!!” ซองมินวีนกลับด้วยความไม่พอใจ
“อย่าคิดมากซิ ซองมิน พี่เปิดหนังอย่างว่าไว้นะ หนังที่เราไปซื้อด้วยกันเมื่อวันก่อนไง จำได้ไหม” ว่าพร้อมกรีดปลายนิ้วผ่านร่องแผ่นหลังบอบบางอีกรอบ
“ก็แล้วไป” ปลายสายว่าพร้อมพ่นลมหายใจออกแรง “ถ้ารู้ว่าพี่เอาผู้หญิงไปกกนะ ผมจะตามไปฆ่าแม่ผู้หญิงพวกนั้นให้ตายคามือเลย คอยดู!!” น้ำเสียงแสดงความอาฆาตดังเล็ดลอดออกมาให้คนที่กำลังโยกไหวอยู่สั่นสะท้าน ฮยอกแจจิกปลายเล็บใส่แผ่นกว้างด้วยความหวาดกลัว แนบกายตัวเองเข้ากับอ้อมอกแกร่ง ราวกับต้องการให้เรือนร่างนั้นกลืนกินตัวเองให้จางหายไป
“หึ หนังเรื่องนี้คุณภาพดีใช้ได้เลยนะ นายอยากลองฟังเสียงดูบ้างไหมล่ะ” ไม่ว่าเปล่ายังเลื่อนมือลงมาจับสะโพกกลมให้ขยับมากขึ้น ฮยอกแจเผลอตัวครางออกมาหวานหู สติสตังแทบไม่เหลือให้ควบคุม ฮยอกแจส่งสายตาปรอยหวานฉ่ำพร้อมอาฆาตใส่คนตรงหน้า พยายามกัดฟันไม่ให้น้ำเสียงใด ๆ เล็ดลอดออกมา เพราะถ้าเกิดซองมินได้ยินแล้วจำได้ขึ้นมาคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุให้อีกคนโยกไหวหนักขึ้นจนต้องปลดปล่อยน้ำเสียงออกมาให้ปลายสายได้ยินชัด ๆ
“เป็นยังไง เพราะดีใช่ไหมล่ะ” พูดกับปลายสายอีกที พร้อมจ้องมองคนที่เพิ่งไปถึงทางสวรรค์เพราะความกดดันตรงหน้า
“พี่คยูฮยอน ถ้าพี่ต้องการมาก ๆ มาหาผมก็ได้นะฮะ” ซองมินเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงยั่วยวน คยูฮยอนยกยิ้มมุมปาก
“ไปแน่ ๆ เพราะคนที่พี่ต้องการจริง ๆ มีเพียงซองมินเท่านั้น” พูดกับปลายสาย แต่สายตาจ้องมองคนที่กำลังนั่งหอบหายใจแรงอยู่บนตักตัวเอง “แต่คงไม่ใช่ตอนนี้หรอก แค่นี้ก่อนนะคนดี พี่ขอทำการบ้านให้เสร็จก่อน” หยอดน้ำคำหวาน ๆ ใส่แล้วกดวางสายไป ฮยอกแจยันมือสองข้างไว้ที่แผงอกกว้างมาจ้องมองคนตรงหน้า
“เลวที่สุด”
“หึ แล้วใครว่าฉันเป็นคนดี” ยอมรับแบบไม่หวาดหวั่น
“ตลบตะแลง เลวทร.....” ยังพูดไม่ทันจบ กลีบปากอิ่มถูกประกบปิดแน่น ฮยอกแจพยายามรั้งใบหน้าตัวเองออก แต่ถูกมือใหญ่ดันท้ายทอยไว้จนไม่อาจขยับไปไหนได้ ทำได้เพียงตอบสนองปลายลิ้นที่กำลังลุกล้ำนั้น
ฮยอกแจครางท้วงในลำคอ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นครางหวาน เมื่อมืออีกข้างของคนตัวสูงกรีดลงบนแผ่นหลังตัวเองเบา ๆ คนที่ดิ้นรนขัดขืนจำต้องนิ่งสงบ สั่นสะท้านอย่างห้ามไม่อยู่
“แล้วทำไมไม่บอกความจริงกับซองมินไปล่ะ นายก็คงไม่ต่างกับฉันหรอกมั้ง ฮยอกแจ” ละริมฝีปากออกมาว่าอย่างมีชัย ฮยอกแจปรอยสายตาจ้องกลับ ถ้าทำได้เขาคงทำไปนานแล้ว
“ป ปล่อย”
“อะไร นี่เพิ่งเริ่มเองนะ ฮยอกแจ”
“ไม่นะ พอแล้ว” ส่ายหัวไปมา พยายามดันตัวเองลุกขึ้นยืน
“ก็บอกแล้วไง ว่าเพิ่งเริ่ม” ว่าพร้อมกดสะโพกกลมให้ลงมายังจุดเดิม แรงกดหนักทำเอาเจ็บจนจุกไปหมด ฮยอกแจจับไหล่กว้างเอาไว้แน่น หยุดกายตัวเองไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว หวังหยุดความเจ็บที่ได้รับ แต่ยังไม่ทันจะทำได้ดั่งใจ มือใหญ่จับสะโพกกลมไว้ พร้อมไหวโยกเข้าออกหาตัว
“อย่า อือ~ พอแล้ว อ๊ะอ๊า~” ร้องขอพร้อมครางหวานไปด้วยกัน
“ครางหวานขนาดนี้ คงไม่ใช่หรอกมั้ง” กระซิบแผ่วด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“อึกเลวที่สุด อือ~” คยูฮยอนยกยิ้มมุมปาก
“เลวขนาดไหน แต่ก็ทำให้นายรักได้ละนะ” ว่ากลับยั่ว ๆ
“ไม่ ผมไม่ได้รักพี่”
“แน่ใจนะว่าไม่ได้รัก” กระซิบถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล น้ำเสียงที่ทำเอาฮยอกแจใจละลายทุกครั้งที่ได้ยิน แม้จะรู้ว่านี่คือเกมส์ที่อีกคนต้องการหลอกล่อให้ตัวเองต้องจนมุม แต่ฮยอกแจก็อดไม่ได้ที่จะหย่อนขาลงไปในหลุมนรกอเวจีที่เรียกว่า “รัก”
ฮยอกแจปิดปากลงเงียบ แม้อยากจะปฏิเสธ แต่ก็ทำไม่ได้ คยูฮยอนยกยิ้มพอใจอีกรอบ
“ฉันจะเลิกก็ต่อเมื่อนายเลิกรักฉันได้นั่นแหละ ฮยอกแจ ตราบใดที่นายยังรักฉันอยู่ นายก็เป็นของฉัน” กระซิบบอกดั่งประกาศิตตราลึกลงสู่หัวใจคนอ่อนไหว “แต่เชื่อซิ นายจะรักฉันมากขึ้นทุกวัน นายจะตัดใจจากฉันไม่ได้ นายจะเป็นสมบัติของฉันตลอดไป ลี ฮยอกแจ” กระซิบมนต์ตรานุ่มนวลลงสู่หัวใจดวงน้อย..อีกครั้ง
ฮยอกแจหลับตาลง แนบกายตัวเองเข้าหาลำตัวสูงใหญ่ เกมส์ครั้งนี้ตัวเองต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อีกแล้ว แพ้ทั้งใจ แพ้ทั้งกาย ฮยอกแจปล่อยตัวและหัวใจให้ไหวไปตามเกมส์ที่ซาตานเป็นผู้กำหนด
>>กลับไปอ่านต่อ<<
>>กลับไปอ่านต่อ ในห้องฟิคสั้น <<
NC Part 2.
“คงยากละนะ” สิ้นคำเข็มขัดเส้นเล็กถูกปลดออกไปพร้อม ๆ กับกางเกงที่หลุดลอยหายออกไปกองไว้ที่พื้น ฮยอกแจส่ายหัวหนัก ๆ คนด้านนอกที่เข้ามากำลังล้างมือในอ่าง เสียงน้ำกลบเสียงคลี่ปลดเข็มขัดได้เป็นอย่างดี ฮยอกแจแทบไม่อยากหายใจ คยูฮยอนยกขาบางข้างหนึ่งขึ้นมาเกี่ยวเอวตัวเองไว้ แล้วค่อย ๆ สอดใส่เนื้อร้อนตัวเองเข้าสู่ช่องทางอ่อนนุ่มช้า ๆ ฮยอกแจกัดฟันแน่นไม่ยอมให้น้ำเสียงใด ๆ ของตัวเองเล็ดลอดออกมา
“ฮยอกแจ!! นายอยู่นี่หรือเปล่า!!” เสียงซองมินดังขึ้นทำเอาหัวใจดวงน้อยหล่นไปอยู่ปลายเท้า ฮยอกแจเบิกม่านตาออกกว้าง พร้อมสั่นไหวหวาดหวั่นจุดรอยยิ้มพอใจไว้ใบหน้าคมคาย
“พอเถอะ” ฮยอกแจขยับริมฝีปากสั่งให้อีกคนหยุด แต่ร่างสูงกลับไม่ใส่ใจฟังแม้แต่น้อย ยังขยับกายเข้าออกไม่หยุด
“ไปไหนของเขานะ”
“อ้าว ซองมิน เจอเพื่อนหรือเปล่า” เพื่อนร่วมวงสนทนาที่เดินตามมาเอ่ยถาม
“ยังเลย”
“ลองโทรเข้ามือถือดูซิ เผื่อออกไปเดินเตร่ ๆ อยู่แถวนี้” บทสนทนานั้นเบิกม่านตาสวยของฮยอกแจออกกว้าง ถ้าซองมินโทรเข้าเครื่อง ซองมินก็ต้องจับได้นะซิว่าตัวเองอยู่ในห้องน้ำ ดวงตาคู่สวยยิ่งเบิกโพลงมากขึ้น เฝ้ารอคอยสั่นญาณที่มันน่าจะดังขึ้น แต่ทุกอย่างยังคงเงียบสนิท
“เอ้ จะปิดมือถือทำไมเนี่ย” ได้ยินเสียงเพื่อนบ่นเบา ๆ คยูฮยอนจ้องมองปฏิกิริยาจากคนตรงหน้าด้วยความพอใจ
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันรอบคอบเสมอ” คยูฮยอนล้วงหยิบมือถือของฮยอกแจขึ้นมาโชว์ต่อหน้า กรอบสี่เหลี่ยมมีเพียงความมืดเท่านั้น นี่เขาเอาโทรศัพท์ไปกดปิดตั้งแต่เมื่อไหร่
“อ๊ะ~” ฮยอกแจเผลอครางออกมาเมื่อคยูฮยอนขยับสะโพกแรง “รุ่นพี่ พ พอเถอะ” กระซิบห้ามทั้งน้ำตา ทั้งหวาดกลัว ทั้งเสียวซ่าน ทั้งหวาดหวั่น ทุกความรู้สึกโหมกระหน่ำจนแทบอยากจะลาโลกไปซะเดี๋ยวนั้นเลย ฮยอกแจกัดริมฝีปากจนเลือดซิบ สั่งห้ามไม่ให้ตัวเองเผลอส่งเสียงใด ๆ ออกมา ทั้งยังพยายามส่งสายตาอ้อนวอนร้องขอความเห็นใจ
แต่ยิ่งออดอ้อนด้วยท่าทางชวนน่าสงสารมากเท่าไหร่ คนตัวใหญ่ยิ่งเร่งจังหวะหนักขึ้นมากเท่านั้น ฮยอกแจแทบบ้า ถ้าเกิดซองมินได้ยินเสียงอะไรในห้องน้ำแบบนี้แล้วสงสัยขึ้นมาจะทำยังไง เมื่อขอร้องยังไงก็ไม่เป็นผล ฮยอกแจมุดหน้าเข้ากับแผงอกกว้าง พร้อมกำอกเสื้อคนตัวสูงเอาไว้แน่น
“สงสัยจะหนีกลับไปแล้วมั้ง รายนั้นยิ่งไม่ชอบอยู่กับผู้คนเยอะ ๆ อยู่ด้วย อุตส่าห์จะพามาเปิดหูเปิดตาแท้ ๆ” ซองมินบ่นใส่เพื่อน
“งั้นก็ปล่อยเขาไปเถอะ เรากลับไปที่โต๊ะกันดีกว่า”
“อืม” ฮยอกแจกลั้นลมหายใจตัวเองไว้ ก่อนทุกอย่างจะเงียบสงบลง ลมหายใจถึงได้ถูกพ่นออกมาจนหมด
“ตื่นเต้นดีนะ ว่าไหม” กระตุกยิ้มมุมปากเอ่ยถาม
“ไม่..พอเถอะรุ่นพี่ ผมไม่ไหวแล้ว” ฮยอกแจรับความกดดันต่อไปไม่ไหวแล้ว
“แต่ฉันยังไม่พอ” ว่าพร้อมระรัวสะโพกใส่ ฮยอกแจเชิดหน้าจับสองแขนแกร่งแน่น ปรอยสายตาหวานฉ่ำภายใต้กรอบแว่นหนาขึ้นมอง
“แว่นนี่เกะกะชะมัด” ขจัดความเกะกะด้วยการถอดสิ่งนั้นไปวางไว้บนโถชักโครก ใบหน้าที่ปราศจากเครื่องกั้นแลดูหวานฉ่ำจนอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจุมพิตแผ่วเบา ไล้ลงมายังซอกคอขาวในขณะที่ท่อนล่างก็ทำหน้าที่โหมเพลิงปรารถนาไม่หยุด กระทั่งตัวเองพาคนตัวเล็กวิ่งไปถึงปลายทาง
>>กลับไปอ่านต่อ ในซินซ่า<<
>>กลับไปอ่านต่อ ในห้องฟิคสั้น <<
NC Part 1.
มือหนาจัดการคลี่ปลดซิบออกจากกันจนเผยปีศาจร้ายที่พร้อมใช้งานเต็มที่ ฮยอกแจสั่นไหวไปทั้งตัวค่อย ๆ ก้าวเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ
“นั่งลงมา” ฮยอกแจเดินขึ้นไปนั่งบนตักใหญ่พร้อมสอดใส่สิ่งที่กำลังผงาดตั้งตรงให้กลืนหายเข้าไปภายในเรือนร่างของตัวเอง กัดฟันแน่นกับความอึดอัดที่ได้รับ
“ชักช้า!!” ไม่ว่าเปล่ายังจับสะโพกกลมกดหนักจนฮยอกแจกรีดร้องเสียงหลง
“รุ่นพี่ผมเจ็บ~” ร้องขอด้วยน้ำเสียงชวนน่าสงสาร แต่น้ำเสียงแบบนั้นกลับไปกระตุ้นจิตใจของซาตานให้กระหยิ่มไปกับสิ่งที่เห็น แทนที่อีกคนจะปรานี กลับจับสะโพกกลมยกขึ้นสูงจนแท่งเนื้อเกือบหลุดออกพร้อมใส่กลับลงไปดังเดิมสุดแรง ฮยอกแจกัดริมฝีปากตัวเองแน่นอดทนกับทั้งความเจ็บจุกอึดอัดและเสียวซ่านที่ได้รับ
“อะไรยังไม่ชินอีกหรือไง”
“ม ไม่ชิน ไม่ต้องการ ไม่เอาแล้ว”
“หึ เสียใจแต่คนที่ผิดคือนายนะฮยอกแจ” จับสะโพกกลมยกขึ้นจนเกือบสุดและกดลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงตาพราวเสน่ห์จ้องมองใบหน้าเจ็บปวดผสมเสียวซ่านด้วยความพอใจ
“คุณมันซาตานชัด ๆ” ปรายสายตาฉ่ำเยิ้มพร้อมเอาเรื่องใส่อีกคน ชายหนุ่มกระตุกยิ้มไม่ใส่ใจกับน้ำคำต่อว่านั้น ก่อนเปลี่ยนจังหวะให้สะโพกกลมไหวโยกไปในอีกทิศทาง ฮยอกแจเผลอตัวเชิดหน้าแอ่นอก ปรอยสายตาหวานฉ่ำพร้อมส่งเสียงครางหวานออกมาให้ได้ยิน
“อืม~ อย่างนั้นแหละฮยอกแจ ใครจะรู้บ้างนะว่าคนเรียบร้อยแบบนายก็ร้อนแรงได้เหมือนกัน” กดสะโพกกลมหนักขึ้นจนปลายเล็บแหลมคมต้องจิกลงที่กลางหลังเพื่อระบายความเสียวซ่าน เสียงเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นเบา ๆ ข้างตัว มือหนาเอื้อมออกไปรับสิ่งนั้นมาแนบไว้ที่หูพร้อมกรอกเสียงลงไป
“ว่าไงซองมิน” ฮยอกแจเบิกม่านตาออกกว้าง ผลักตัวเองออกมาส่ายหน้าแรง ๆ คล้ายกับต้องการเร่งให้อีกคนจบเกมส์นี้หรือไม่ก็วางสายไป นัยน์ตาสีน้ำตาลคลอเคลือบไปด้วยความหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด ยกมุมปากของคนเจ้าเล่ห์ขึ้นสูง มือใหญ่ข้างหนึ่งจับสะโพกกลมไว้ กดเบา ๆ ให้กายเล็กโยกไหวในขณะที่มืออีกข้างก็ถือโทรศัพท์คุยกับปลายสายไป
“พี่คยูฮยอนทำอะไรอยู่” ปลายสายถามกลับ คยูฮยอนปรายตามองแววตาอ้อนวอนด้วยความพอใจ
“ทำการบ้าน” ว่าพร้อมกดสะโพกกลมแรง ๆ หนึ่งที ทำเอาฮยอกแจเผลอตัวครางออกมาอย่างยั้งไม่อยู่ ฮยอกแจรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ นัยน์ตาเล็กพากันสั่นไหวคลอเคล้าราวกับน้ำตากำลังจะพากันไหลริน เรียกรอยยิ้มพอใจจากคนตัวสูง
“ไม่ อย่านะรุ่นพี่” กระซิบห้ามด้วยลมหายใจ แต่แทนที่อีกคนจะหยุด กลับกรีดปลายนิ้วใส่แผ่นหลังเปลือยเปล่า ฮยอกแจเชิดหน้าเลื่อนมือไปกอดลำคอแกร่งเอาไว้อัตโนมัติ แผ่นหลังคือส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของตัวเอง และดูเหมือนอีกคนจะรู้เลยลูบไล้กระตุ้นต่อมความอดทนให้หดหาย ฮยอกแจครางหวานบิดกายแนบลำตัวเข้าหากายใหญ่ ซบใบหน้าเข้ากับแผงอกกว้าง ขยับสะโพกระบายความเสียวซ่านด้วยท่าทางยั่วยวน
“พี่คยูฮยอน นี่พี่อยู่กับใคร ได้ยินเสียงคนอื่นด้วย พี่พาผู้หญิงมานอนด้วยเหรอ!!” ซองมินวีนกลับด้วยความไม่พอใจ
“อย่าคิดมากซิ ซองมิน พี่เปิดหนังอย่างว่าไว้นะ หนังที่เราไปซื้อด้วยกันเมื่อวันก่อนไง จำได้ไหม” ว่าพร้อมกรีดปลายนิ้วผ่านร่องแผ่นหลังบอบบางอีกรอบ
“ก็แล้วไป” ปลายสายว่าพร้อมพ่นลมหายใจออกแรง “ถ้ารู้ว่าพี่เอาผู้หญิงไปกกนะ ผมจะตามไปฆ่าแม่ผู้หญิงพวกนั้นให้ตายคามือเลย คอยดู!!” น้ำเสียงแสดงความอาฆาตดังเล็ดลอดออกมาให้คนที่กำลังโยกไหวอยู่สั่นสะท้าน ฮยอกแจจิกปลายเล็บใส่แผ่นกว้างด้วยความหวาดกลัว แนบกายตัวเองเข้ากับอ้อมอกแกร่ง ราวกับต้องการให้เรือนร่างนั้นกลืนกินตัวเองให้จางหายไป
“หึ หนังเรื่องนี้คุณภาพดีใช้ได้เลยนะ นายอยากลองฟังเสียงดูบ้างไหมล่ะ” ไม่ว่าเปล่ายังเลื่อนมือลงมาจับสะโพกกลมให้ขยับมากขึ้น ฮยอกแจเผลอตัวครางออกมาหวานหู สติสตังแทบไม่เหลือให้ควบคุม ฮยอกแจส่งสายตาปรอยหวานฉ่ำพร้อมอาฆาตใส่คนตรงหน้า พยายามกัดฟันไม่ให้น้ำเสียงใด ๆ เล็ดลอดออกมา เพราะถ้าเกิดซองมินได้ยินแล้วจำได้ขึ้นมาคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุให้อีกคนโยกไหวหนักขึ้นจนต้องปลดปล่อยน้ำเสียงออกมาให้ปลายสายได้ยินชัด ๆ
“เป็นยังไง เพราะดีใช่ไหมล่ะ” พูดกับปลายสายอีกที พร้อมจ้องมองคนที่เพิ่งไปถึงทางสวรรค์เพราะความกดดันตรงหน้า
“พี่คยูฮยอน ถ้าพี่ต้องการมาก ๆ มาหาผมก็ได้นะฮะ” ซองมินเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงยั่วยวน คยูฮยอนยกยิ้มมุมปาก
“ไปแน่ ๆ เพราะคนที่พี่ต้องการจริง ๆ มีเพียงซองมินเท่านั้น” พูดกับปลายสาย แต่สายตาจ้องมองคนที่กำลังนั่งหอบหายใจแรงอยู่บนตักตัวเอง “แต่คงไม่ใช่ตอนนี้หรอก แค่นี้ก่อนนะคนดี พี่ขอทำการบ้านให้เสร็จก่อน” หยอดน้ำคำหวาน ๆ ใส่แล้วกดวางสายไป ฮยอกแจยันมือสองข้างไว้ที่แผงอกกว้างมาจ้องมองคนตรงหน้า
“เลวที่สุด”
“หึ แล้วใครว่าฉันเป็นคนดี” ยอมรับแบบไม่หวาดหวั่น
“ตลบตะแลง เลวทร.....” ยังพูดไม่ทันจบ กลีบปากอิ่มถูกประกบปิดแน่น ฮยอกแจพยายามรั้งใบหน้าตัวเองออก แต่ถูกมือใหญ่ดันท้ายทอยไว้จนไม่อาจขยับไปไหนได้ ทำได้เพียงตอบสนองปลายลิ้นที่กำลังลุกล้ำนั้น
ฮยอกแจครางท้วงในลำคอ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นครางหวาน เมื่อมืออีกข้างของคนตัวสูงกรีดลงบนแผ่นหลังตัวเองเบา ๆ คนที่ดิ้นรนขัดขืนจำต้องนิ่งสงบ สั่นสะท้านอย่างห้ามไม่อยู่
“แล้วทำไมไม่บอกความจริงกับซองมินไปล่ะ นายก็คงไม่ต่างกับฉันหรอกมั้ง ฮยอกแจ” ละริมฝีปากออกมาว่าอย่างมีชัย ฮยอกแจปรอยสายตาจ้องกลับ ถ้าทำได้เขาคงทำไปนานแล้ว
“ป ปล่อย”
“อะไร นี่เพิ่งเริ่มเองนะ ฮยอกแจ”
“ไม่นะ พอแล้ว” ส่ายหัวไปมา พยายามดันตัวเองลุกขึ้นยืน
“ก็บอกแล้วไง ว่าเพิ่งเริ่ม” ว่าพร้อมกดสะโพกกลมให้ลงมายังจุดเดิม แรงกดหนักทำเอาเจ็บจนจุกไปหมด ฮยอกแจจับไหล่กว้างเอาไว้แน่น หยุดกายตัวเองไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว หวังหยุดความเจ็บที่ได้รับ แต่ยังไม่ทันจะทำได้ดั่งใจ มือใหญ่จับสะโพกกลมไว้ พร้อมไหวโยกเข้าออกหาตัว
“อย่า อือ~ พอแล้ว อ๊ะอ๊า~” ร้องขอพร้อมครางหวานไปด้วยกัน
“ครางหวานขนาดนี้ คงไม่ใช่หรอกมั้ง” กระซิบแผ่วด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“อึกเลวที่สุด อือ~” คยูฮยอนยกยิ้มมุมปาก
“เลวขนาดไหน แต่ก็ทำให้นายรักได้ละนะ” ว่ากลับยั่ว ๆ
“ไม่ ผมไม่ได้รักพี่”
“แน่ใจนะว่าไม่ได้รัก” กระซิบถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล น้ำเสียงที่ทำเอาฮยอกแจใจละลายทุกครั้งที่ได้ยิน แม้จะรู้ว่านี่คือเกมส์ที่อีกคนต้องการหลอกล่อให้ตัวเองต้องจนมุม แต่ฮยอกแจก็อดไม่ได้ที่จะหย่อนขาลงไปในหลุมนรกอเวจีที่เรียกว่า “รัก”
ฮยอกแจปิดปากลงเงียบ แม้อยากจะปฏิเสธ แต่ก็ทำไม่ได้ คยูฮยอนยกยิ้มพอใจอีกรอบ
“ฉันจะเลิกก็ต่อเมื่อนายเลิกรักฉันได้นั่นแหละ ฮยอกแจ ตราบใดที่นายยังรักฉันอยู่ นายก็เป็นของฉัน” กระซิบบอกดั่งประกาศิตตราลึกลงสู่หัวใจคนอ่อนไหว “แต่เชื่อซิ นายจะรักฉันมากขึ้นทุกวัน นายจะตัดใจจากฉันไม่ได้ นายจะเป็นสมบัติของฉันตลอดไป ลี ฮยอกแจ” กระซิบมนต์ตรานุ่มนวลลงสู่หัวใจดวงน้อย..อีกครั้ง
ฮยอกแจหลับตาลง แนบกายตัวเองเข้าหาลำตัวสูงใหญ่ เกมส์ครั้งนี้ตัวเองต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อีกแล้ว แพ้ทั้งใจ แพ้ทั้งกาย ฮยอกแจปล่อยตัวและหัวใจให้ไหวไปตามเกมส์ที่ซาตานเป็นผู้กำหนด
>>กลับไปอ่านต่อ<<
>>กลับไปอ่านต่อ ในห้องฟิคสั้น <<
NC Part 2.
“คงยากละนะ” สิ้นคำเข็มขัดเส้นเล็กถูกปลดออกไปพร้อม ๆ กับกางเกงที่หลุดลอยหายออกไปกองไว้ที่พื้น ฮยอกแจส่ายหัวหนัก ๆ คนด้านนอกที่เข้ามากำลังล้างมือในอ่าง เสียงน้ำกลบเสียงคลี่ปลดเข็มขัดได้เป็นอย่างดี ฮยอกแจแทบไม่อยากหายใจ คยูฮยอนยกขาบางข้างหนึ่งขึ้นมาเกี่ยวเอวตัวเองไว้ แล้วค่อย ๆ สอดใส่เนื้อร้อนตัวเองเข้าสู่ช่องทางอ่อนนุ่มช้า ๆ ฮยอกแจกัดฟันแน่นไม่ยอมให้น้ำเสียงใด ๆ ของตัวเองเล็ดลอดออกมา
“ฮยอกแจ!! นายอยู่นี่หรือเปล่า!!” เสียงซองมินดังขึ้นทำเอาหัวใจดวงน้อยหล่นไปอยู่ปลายเท้า ฮยอกแจเบิกม่านตาออกกว้าง พร้อมสั่นไหวหวาดหวั่นจุดรอยยิ้มพอใจไว้ใบหน้าคมคาย
“พอเถอะ” ฮยอกแจขยับริมฝีปากสั่งให้อีกคนหยุด แต่ร่างสูงกลับไม่ใส่ใจฟังแม้แต่น้อย ยังขยับกายเข้าออกไม่หยุด
“ไปไหนของเขานะ”
“อ้าว ซองมิน เจอเพื่อนหรือเปล่า” เพื่อนร่วมวงสนทนาที่เดินตามมาเอ่ยถาม
“ยังเลย”
“ลองโทรเข้ามือถือดูซิ เผื่อออกไปเดินเตร่ ๆ อยู่แถวนี้” บทสนทนานั้นเบิกม่านตาสวยของฮยอกแจออกกว้าง ถ้าซองมินโทรเข้าเครื่อง ซองมินก็ต้องจับได้นะซิว่าตัวเองอยู่ในห้องน้ำ ดวงตาคู่สวยยิ่งเบิกโพลงมากขึ้น เฝ้ารอคอยสั่นญาณที่มันน่าจะดังขึ้น แต่ทุกอย่างยังคงเงียบสนิท
“เอ้ จะปิดมือถือทำไมเนี่ย” ได้ยินเสียงเพื่อนบ่นเบา ๆ คยูฮยอนจ้องมองปฏิกิริยาจากคนตรงหน้าด้วยความพอใจ
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันรอบคอบเสมอ” คยูฮยอนล้วงหยิบมือถือของฮยอกแจขึ้นมาโชว์ต่อหน้า กรอบสี่เหลี่ยมมีเพียงความมืดเท่านั้น นี่เขาเอาโทรศัพท์ไปกดปิดตั้งแต่เมื่อไหร่
“อ๊ะ~” ฮยอกแจเผลอครางออกมาเมื่อคยูฮยอนขยับสะโพกแรง “รุ่นพี่ พ พอเถอะ” กระซิบห้ามทั้งน้ำตา ทั้งหวาดกลัว ทั้งเสียวซ่าน ทั้งหวาดหวั่น ทุกความรู้สึกโหมกระหน่ำจนแทบอยากจะลาโลกไปซะเดี๋ยวนั้นเลย ฮยอกแจกัดริมฝีปากจนเลือดซิบ สั่งห้ามไม่ให้ตัวเองเผลอส่งเสียงใด ๆ ออกมา ทั้งยังพยายามส่งสายตาอ้อนวอนร้องขอความเห็นใจ
แต่ยิ่งออดอ้อนด้วยท่าทางชวนน่าสงสารมากเท่าไหร่ คนตัวใหญ่ยิ่งเร่งจังหวะหนักขึ้นมากเท่านั้น ฮยอกแจแทบบ้า ถ้าเกิดซองมินได้ยินเสียงอะไรในห้องน้ำแบบนี้แล้วสงสัยขึ้นมาจะทำยังไง เมื่อขอร้องยังไงก็ไม่เป็นผล ฮยอกแจมุดหน้าเข้ากับแผงอกกว้าง พร้อมกำอกเสื้อคนตัวสูงเอาไว้แน่น
“สงสัยจะหนีกลับไปแล้วมั้ง รายนั้นยิ่งไม่ชอบอยู่กับผู้คนเยอะ ๆ อยู่ด้วย อุตส่าห์จะพามาเปิดหูเปิดตาแท้ ๆ” ซองมินบ่นใส่เพื่อน
“งั้นก็ปล่อยเขาไปเถอะ เรากลับไปที่โต๊ะกันดีกว่า”
“อืม” ฮยอกแจกลั้นลมหายใจตัวเองไว้ ก่อนทุกอย่างจะเงียบสงบลง ลมหายใจถึงได้ถูกพ่นออกมาจนหมด
“ตื่นเต้นดีนะ ว่าไหม” กระตุกยิ้มมุมปากเอ่ยถาม
“ไม่..พอเถอะรุ่นพี่ ผมไม่ไหวแล้ว” ฮยอกแจรับความกดดันต่อไปไม่ไหวแล้ว
“แต่ฉันยังไม่พอ” ว่าพร้อมระรัวสะโพกใส่ ฮยอกแจเชิดหน้าจับสองแขนแกร่งแน่น ปรอยสายตาหวานฉ่ำภายใต้กรอบแว่นหนาขึ้นมอง
“แว่นนี่เกะกะชะมัด” ขจัดความเกะกะด้วยการถอดสิ่งนั้นไปวางไว้บนโถชักโครก ใบหน้าที่ปราศจากเครื่องกั้นแลดูหวานฉ่ำจนอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจุมพิตแผ่วเบา ไล้ลงมายังซอกคอขาวในขณะที่ท่อนล่างก็ทำหน้าที่โหมเพลิงปรารถนาไม่หยุด กระทั่งตัวเองพาคนตัวเล็กวิ่งไปถึงปลายทาง
>>กลับไปอ่านต่อ ในซินซ่า<<
>>กลับไปอ่านต่อ ในห้องฟิคสั้น <<